ไทยประกันชีวิตได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ AAA หรืออยู่ในระดับแข็งแกร่ง จากฟิทช์ เรทติ้งส์

ผลจากระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความมั่นคง และการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม
ไทยประกันชีวิต ได้รับการจัดอันดับเครดิตทางการเงินในประเทศที่ระดับ AAA(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของธุรกิจไทย และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 343% (ณ 30 กันยายน 2564) สูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ.กำหนด สะท้อนความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคง พร้อมเคียงข้างดูแลชีวิตคนไทยในทุกสถานการณ์
นางวรางค์  ไชยวรรณ กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI  เปิดเผยว่า บริษัทฯ  มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน  มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ  และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนางานในทุกด้าน  ทั้งการสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการ การสร้างความมั่นคงทางการเงิน  การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เอาประกันภัยของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 4,500,000 ราย

การให้ความสำคัญด้านความมั่นคงทางการเงิน  และการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม  ส่งผลให้สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ประกาศคงอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงินสำหรับไทยประกันชีวิต โดยมีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ ‘AAA(tha)’ มุมมองมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุด และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ ‘A-’ หรืออยู่ในระดับแข็งแกร่ง

ฟิทช์ฯ  ประเมินโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแรง  ซึ่งเป็นผลจากโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการมีบรรษัทภิบาลดี  เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นภายในประเทศไทย บริษัทฯ  มีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่มีขนาดใหญ่  และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันชีวิตรวม ณ 31 ธันวาคม 2564 ตลอดจนบริษัทฯ  ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่มีความหลากหลาย  และช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง  ผ่านเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิต ธนาคารพาณิชย์  และพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย
 

เงินกองทุนแกร่ง

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายอยู่ที่ 343% ณ 30 กันยายน 2564 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะเข้ามาดูแลคือ 120% ขณะที่การประเมินด้วย Fitch Prism Model (FBM) ของฟิทช์ฯ จากข้อมูลการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งมาก

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ  คาดว่าจะอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะมีความท้าทาย บริษัทฯ  มีอัตราส่วนกำไรสุทธิเฉลี่ย 3 ปี ในช่วงปี 2562 – 2564 อยู่ที่ประมาณ 7.03%  ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ของฟิทช์ฯ โดยรายได้ของบริษัทฯ  ได้รับปัจจัยบวกจากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงนัก  และอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นจากกลยุทธ์ทบทวนและปรับราคาเบี้ยประกัน  รวมถึงนโยบายการประหยัดและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563
 

ลงทุนตราสารหนี้สภาพคล่องสูง

ขณะเดียวกันอัตราส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้  รวมถึงการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ตามสัดส่วนการลงทุนของบริษัทฯ  ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องดีในมุมมองของฟิทช์ฯ  โดยมีตราสารหนี้และเงินฝากอยู่ที่ระดับ 80% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดของบริษัท ณ 31 ธันวาคม 2564

นางวรางค์กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 63,000 ราย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของจำนวนตัวแทนประกันชีวิตทั้งหมดในประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายด้านอื่นที่แข็งแกร่ง ได้แก่ E-Commerce, Bancassurance, Telesale, Partnership ซึ่งนับได้ว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายมากที่สุด บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่จะตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันภัยแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ในทุกช่วงของชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle)

“การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ  ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ  การเมือง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี  รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น  และเพื่อรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ  จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนางานในทุกด้าน  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันภัยอย่างรอบด้าน  โดยเฉพาะการมุ่งสร้างความมั่นคงทางการเงิน  เพื่อให้สามารถจ่ายผลประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยตามสัญญากรมธรรม์  สร้างความเชื่อมั่นในฐานะบริษัทประกันชีวิตที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  พร้อมเคียงข้างดูแลชีวิตคนไทยในทุกสถานการณ์” นางวรางค์กล่าว